แมนยูฯ โดน เลสเตอร์ ตบคาบ้าน ไป 1-2

เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง ไม่แพ้ในลีกมา 14 เกมติด แมตช์ที่แล้วบุกไปอัด แอสตัน วิลล่า 3-1 นัดนี้รับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่หล่นไปอันดับ 4 หลังสะดุดไม่ชนะ 2 เกม ซึ่งนัดที่แล้วแพ้คาบ้านให้ นิวคาสเซิ่ล 2-4 แล้วมาเปิดบ้านรับ เลสเตอร์ และแล้วก็ตามคาด แมนยูฯ โดน เลสเตอร์ ตบคาบ้าน
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2020/21
คืนวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2021
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 เลสเตอร์ ซิตี้
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
สภาพทีม แมนฯ ยูไนเต็ด
แม็คไกวร์ เพิ่งเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนาม ในเกมที่ผ่านมาถึงแม้ จะไม่เป็นอาการบาดเจ็บร้ายแรงนัก แต่มีความเป็นไปได้สูงที่ โอเล่ จะพักเจ้าตัวเพื่อรอดวลกับ หงส์แดง
สภาพทีม เลสเตอร์ ซิตี้
มีความเป็นไปได้ที่ ร็อดเจอร์ส แข้ง เลสเตอร์ เมื่อพวกเขามีเกมชิงถ้วย เอฟเอ คัพ ในสุดสัปดาห์นี้กับ แมนฯ ซิตี้ รออยู่โดย เจมส์ แมดดิสัน กับ ริคาร์โด้ เปเรย์รา มีสิทธิ์หลุดไปเป็นตัวสำรองเพราะพวกเขา พึ่งหายจากอาการบาดเจ็บเมื่อแมตช์ก่อน
ไปดูรายละเอียดการแข่งขันกันครับ
เกมเริ่มครึ่งแรก
ในนาทีที่ 10 ลุค โธมัส ลองมายิงวอลเล่ย์จากลูกเปิดด้านขวาของ เลสเตอร์ ส่งให้ทีมออกนำไปก่อน 0-1 อย่างรวดเร็ว
และนาทีที่ 15 ปีศาจแดง กับโอกาสครั้งแรกก็สามารถตีเสมอได้ทันทีโดย กรีนวู้ด ดิยัลโล ในการหลอกล่อ โธมัส จนเสียหลักและการจบสกอร์ของเขา ทำให้ทีมได้กลับมาตีเสมอได้สำเร็จ
จนถึงนาทีที่ 41 แผนกราฟิค แสดงให้เห็นว่าต่างฝ่าย มีโอกาสกันคนละหนเท่านั้นในเกมนี้ โดยสกอร์ก็ยังคงเสมอกันอยู่ที่1-1 เท่านั้น
หมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรกไป จบด้วยสกอร์ 1-1
เกมเริ่มครึ่งหลัง
ครึ่งหลังเลสเตอร์มาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 66 จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ อัลไบรท์ตัน เปิดให้ ชาลาร์ โซยุนจู กระโดดโหม่งอัดเข้าไปเต็มตาข่าย ช่วยให้เลสเตอร์ซิตี้ นำอีกรอบด้วยสกอ 2-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นเลสเตอร์ ซิตี้ บุกตบแมนยู ชนะไป 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 66 คะแนน ขยับขึ้นมาอันดับ 3 ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 2 ยังมี 70 คะแนนเท่าเดิม และส่งผลให้หัวตารางอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี 80 คะแนน คว้าแชมป์แน่นอนแล้ว เพราะนำห่างถึง 10 คะแนน และที่เหลืออีกแค่ 3 เกมเท่านั้น
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯ ยูฯ (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา; แบรนดอน วิลเลียมส์, เอริค ไบญี, อักเซล ตวนเซเบ้, อเล็กซ์ เตลลีส; ดอนนี ฟาน เดอ เบ็ค, เนมานยา มาติช; อาหมัด ดิยัลโล (บรูโน แฟร์นันด์ส น.78), ฆวน มาต้า, แอนโธนี เอลังก้า (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.66); เมสัน กรีนวู้ด (เอดินสัน คาวานี น.66)
สำรองไม่ได้ใช้ : ดีน เฮนเดอร์สัน, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์, อารอน วาน-บิสซาก้า, ปอล ป็อกบา, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์
เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิล; ทิโมธี กาสตาญ, เวสลีย์ โฟฟานา, ชาลาร์ โซยุนจู; มาร์ค อัลไบรท์ตัน, วิลเฟรด เอ็นดีดี้, ยูริ ตีเลอมันส์, ลุค โธมัส; อโยเซ เปเรซ (เจมส์ แม็ดดิสัน น.65); เคเลชี อิเฮียนาโช, เจมี วาร์ดี้ (ฮัมซา เชาฮ์ดรี้ น.80)
สำรองไม่ได้ใช้ : แดนนี วอร์ด, แดเนียล อมาร์ตีย์, ริคาร์โด้ เปเรรา, คริสเตียน ฟุคส์, น็อมปาลิส เมนดี้, เดนนิส ปราต, ทาวานด้า มาสวานีส